เจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ The Tale of the Princess Kaguya (2013) เป็นภาพยนตร์อนิเมะแนวแฟนตาซีดรามา ผลิตโดยสตูดิโอจิบลิ ควบคุมแล้วก็ร่วมเขียนบทโดยอิซะโอะ ทะกะฮะตะ โดยอาศัยโครงเรื่องจากตำนานคนตัดไผ่ ซึ่งเป็นตำนานท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่น ภาพยนตร์ประเด็นนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันดีที่สุด ในงานประกาศรางวัลครั้งที่ 87
Studio Ghibli Inc.) เป็นสตูดิโอภาพยนตร์อนิเมะของญี่ปุ่น เคยเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของสถานที่พิมพ์โทเรามะโชเต็น ภาพยนตร์อนิเมะของสตูดิโอนี้ เต็มไปด้วยจินตนาการ เข้าถึงอารมณ์ รวมทั้งได้รับความยินดีไปทั้งโลก ชื่อ จิบลิ มาจากเรือบินตรวจการณ์ของประเทศอิตาลีที่ใช้ในทะเลทรายซาฮาราในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง คำนี้มีที่มาจากคำในภาษาลีเบียนที่หมายความว่า “ลมร้อนที่พัดผ่านทะเลทรายซาฮารา” เปรียบเหมือน สตูดิโอที่พัดเอากระแสลมลูกใหม่ผ่านมายังอุตสาหกรรมอนิเมะของประเทศญี่ปุ่น โลโก้ของบริษัทมีตัวละคร “โทะโตะโระ” จากภาพยนตร์เรื่อง โทโทโร่เพื่อนรัก ประกอบอยู่ด้วย
เจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ The Tale of the Princess Kaguya (2013)
ภาพยนตร์ประเด็นนี้เดิมมีหมายกำหนดการเข้าฉายในช่วงฤดูร้อนของปี 2556 ซึ่งตรงเวลาไล่เลี่ยกันกับภาพยนตร์อนิเมะของสตูดิโอจิบลิอีกประเด็นที่ควบคุมโดยฮะยะโอะ ไม่ยะซะกิ เป็นเรื่อง ปีกที่ฝัน วันที่รัก ซึ่งนับว่าเป็นทีแรกของสตูดิโอที่มีการปลดปล่อยผลงานของสองผู้กำกับออกมาในเวลาไล่เลี่ยกันตั้งแต่แมื่อ โทโทโร่เพื่อนรัก กับ ป่าช้าหิ่งห้อย ในปี 2531 อย่างไรก็ดี ในก.พ. 2556 บริษัทโทโฮซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายรวมทั้งเผยแพร่ก็ได้ติดสินดวงใจเลื่อนการฉายภาพยนตร์หัวข้อนี้ออกไปเป็นในช่วงฤดูใบไม้ตก 2556 แทน โดยอ้างเหตุผลเกี่ยวกับบทภาพที่ยังไม่เสร็จบริบูรณ์
รายละเอียดของเรื่องราวเล่าถึง เจ้าฟ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ สาวน้อยผู้เกิดมากับลำแสงสีเงินใต้ต้นไผ่ เติบโตขึ้นมาอย่างเร็วแล้วก็สวยงาม ผ่านบททดลองล้นหลาม อีกทั้งความรัก ความสำราญ รวมทั้งความเศร้า คุณศึกษาบทเรียนอันล้ำค่าเกี่ยวกับชีวิต มอบรอยยิ้มรวมทั้งหยดน้ำตาให้กับผู้ชมไปพร้อม
“เจ้าฟ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่” มิได้เป็นเพียงแต่ภาพยนตร์อนิเมะปกติ แม้กระนั้นเป็นเหมือนผลงานศิลป์อันมีคุณค่า ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านวิธีการวาดรูปสีน้ำอันสวยงาม เพลงประกอบอันเพราะประทับใจรวมทั้งรายละเอียดลึกซึ้งประทับใจ ที่ซ่อนเร้นไว้ด้วยข้อคิดเตือนใจ ให้ข้อเตือนสติ และก็เร่งเร้าความรู้สึกอันนานาประการ หากแม้ฉากจบจะปลดปล่อยให้พวกเราจมกับความเศร้าโศก แม้กระนั้นยังคงตบท้ายด้วยความอบอุ่นแล้วก็ชื่นชอบไว้ภายในหัวใจอย่างไม่ลืมเลือน
เรื่องย่อ เรื่องราวของคนตัดไม้ไผ่และก็เมียที่เจอเด็กสาวในกระบอกไม้ไผ่
ซึ่งเติบโตขึ้นมาเป็นเจ้าฟ้าหญิงที่จิตใจดีแล้วก็งาม เจ้าฟ้าหญิงคางุยะ (วัวลอี เกรซ มอเรทส์) มีสาเหตุจากกระบอกไม้ไผ่ คุณถูกอุปถัมภ์ค้ำชูโดยคนตัดต้นไผ่รวมทั้งเมีย คุณถูกให้ฉายาว่า “ยัยหน่อไม้” โดยกรุ๊ปเด็กที่เติบโตอยู่ท่ามกลางเทือกเขา การก้าวหน้าโตของของ คางุยะ นั้นเร็วทันใจมากมาย ภายในช่วงเวลาเพียงแค่ 12 เดือนคุณก็แปลงเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 13 ปีที่สวยงาม จนถึงทำให้คนตัดต้นไผ่ต้องการทำให้คุณเป็นเจ้าฟ้าหญิงที่จริงจริง คุณจะต้องเข้าไปอยู่ในเมืองและแปลงเป็นจุดหมายปองจากพระราชโอรสเยอะมาก แม้กระนั้นหัวใจคุณนั้นก็ได้มอบไปให้ใครซักคนตั้งนานแล้ว
ซูเตมารุ (ดาร์เรน คริส) หนุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในเทือกเขา รวมทั้งเป็นเพื่อนของ เจ้าฟ้าหญิงคางุยะ ในยุคเด็ก เขาเป็นเด็กที่โตที่สุดในกรุ๊ปแล้วก็เป็นที่พึ่งพิงของครอบครัว ด้วยความเป็นผู้ชายที่จิตใจดีรวมทั้งอบอุ่น คางุยะ ก็เลยแอบมีใจให้ ถึงแม้คุณจะไม่มีจังหวะบอกเขาก็ตาม
คนตัดต้นไผ่ (เจมส์ คาน) เขาเป็นผู้เจอ คางุยะ ในกระบอกไม้ไผ่ระหว่างตัดต้นไผ่ ซึ่งเขาตกลงใจเก็บคุณมาอุปถัมภ์ค้ำชูราวกับลูกในไส้ คนตัดต้นไผ่ ยังเจอกับทรัพย์สินมากไม่น้อยเลยทีเดียวในกระบอกไม้ไผ่ ก็เลยทำให้เขาย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองหลวง และก็เลี้ยงให้ คางุยะ อย่างเจ้าฟ้าหญิงอย่างที่เขาอยากที่จะให้เป็น หากว่าสิ่งนั้นบางทีอาจไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากได้
เมียคนตัดต้นไผ่ (แมรี่ สทีนเบอร์เกน) คุณเป็นดังแม่แท้ๆของ คางุยะ เนื่องจากว่าคุณสนิทสนมกับ คางุยะ เยอะที่สุด คุณก็เลยเข้าใจในเรื่องความรู้สึกของคุณ ถึงแม้ครอบครัวจะมีทุกๆสิ่งทุกๆอย่างสมบูรณ์ แต่ว่าหัวใจของคุณก็ต้องการให้ คางุยะ แฮปปี้ที่สุด
การออกแบบภาพรวมทั้งเสียง งานภาพที่มีลักษณะส่วนตัว
ภาพของ เจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ The Tale of the Princess Kaguya (2013) มีความละมุนละไมรวมทั้งงามด้วยสไตล์การวาดที่เรียบง่าย แต่ว่างอนงาม บางฉากใช้เส้นรวมทั้งสีที่ชัดเพื่อสร้างอารมณ์ที่เข้มข้น โดยยิ่งไปกว่านั้นฉากที่เจ้าฟ้าหญิงคางุยะวิ่งหนีออกมาจากวังซึ่งเต็มไปด้วยความเจ็บรวมทั้งความทุกข์ใจ เส้นที่ใช้ในฉากนั้นมีความสับสนวุ่นวาย สะท้อนอารมณ์ของนักแสดงอย่างแจ่มแจ้ง
ดนตรีประกอบ
ดนตรีโดย โจ ฮิซาอิชิ นั้นสะดุดตารวมทั้งสื่อความหมายได้อย่างถ่องแท้ จังหวะทำนองที่ผสมระหว่างความเศร้าใจรวมทั้งความสวยช่วยสร้างเสริมบรรยากาศให้มีความซาบซึ้งเพิ่มขึ้น ดนตรีช่วยบรรยายความรู้สึกของผู้แสดงได้อย่างทรงอำนาจหากแม้ขณะที่ไม่มีบทพูด
ข้อสรุป เจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ The Tale of the Princess Kaguya (2013) ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์แอนิเมชันที่งามทางสายตา แต่ว่ายังเป็นงานศิลปะที่สะท้อนปรัชญาชีวิตอย่างถ่องแท้ มีความเศร้าหมองแล้วก็ความงามในขณะเดียวกัน มันเป็นภาพยนตร์ที่อยากที่จะให้ผู้ชมคิดและก็รู้สึกตามไปกับเรื่องราวในหลายระดับ คนใดกันที่ชอบพอภาพยนตร์ที่มีรายละเอียดลึกซึ้งและก็การเล่าเรื่องเชิงปรัชญา ภาพยนตร์ประเด็นนี้เป็นสิ่งที่ไม่สมควรพลาด
หนังประเด็นนี้ยังถ่ายทอดวัฒนธรรมศิลป์ของการเล่าเรื่องในแบบประเทศญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่
ไม่ว่าจะเป็นงานวรรณกรรม หรืองานภาพยนตร์ของประเทศญี่ปุ่นนั้นมันจะเด่นสวยสดงดงามไม่ซ้ำใคร ความหวั่นไหวโรแมนติก ความเป็นประพันธ์ ภาพที่ถ่ายทอดออกมาเป็นไปได้มากยิ่งกว่าเพียงแค่รับใช้การเล่าเรื่อง หลายหนมีการร่ำไรแล้วก็ไหลลื่นซึมซับไปกับบรรยากาศอย่างงดงามโดยที่มิได้บากบั่นจะใช้ภาพต่อภาพ ช็อตต่อช็อต ข้อความสำคัญต่อหัวข้อที่มีเหตุมีผลคล้องจองกันเคลื่อนเรื่องไปด้านหน้าเป็นเส้นตรงไปจนกระทั่งผลสรุป ซึ่งลายเซ็นภาพของสตูดิโอจิบลินั้นขับเน้นย้ำแก่นเสน่ห์ในแบบประเทศญี่ปุ่นออกมาได้พอดีสวยงามเสมอ
เส้นเรื่องในหนังเรียบง่าย มีความสนุกสนานร่าเริงเพลิดเพลินใจแบบนิทานพื้นบ้าน รายล้อมด้วยข้อความสำคัญค่าความนิยมสังคมที่ปะทะกับความเป็นลัทธิเสรีนิยม ธรรมชาติแล้วก็พลังอำนาจจากเบื้องบน สิ่งที่น่าดึงดูดมากมายเป็นการลำดับที่สองตายายมั่นใจว่าเด็กผู้หญิงนั้นเป็นเจ้าฟ้าหญิง โดยที่คิดไปเองว่าเจ้าฟ้าหญิงนั้นเป็นเจ้าฟ้าหญิงในกรอบทางด้านสังคมของตน เป็นเจ้าฟ้าหญิงที่จะต้องอยู่ในคฤหาสน์หรู แต่งองค์ทรงเครื่องอย่างผู้ดี รวมทั้งเป็นเป้าหมายปองของบรรดาพระราชโอรสทั่วทุกสารทิศ ความเป็นเจ้าฟ้าหญิงประกอบสร้างที่เบาๆลดลางเลือนความเป็นเจ้าฟ้าหญิงที่จริงจริงของคุณ
อนิเมชั่นจากสตูดิโอจิบลินั้นวาดลวดลายฝากความตรึงใจให้กับนักดูหนังทั้งโลกมานานแล้ว กลับมีพื้นที่ในความพึงพอใจแล้วก็รับทราบของคนประเทศไทยไม่มากเท่าไรนักสาเหตุจากอิทธิพลมากมายของฮอลลีวู้ดที่แทบผูกขาดรสนิยมดูหนังของคนประเทศไทย
เกิดเรื่องที่น่าดีใจที่ทุกๆวันนี้หนังจิบลิมีพื้นที่ในโรงหนังไทยโดยตลอดซึ่งเกิดเรื่องที่แฟนหนังจิบลิกรุ๊ปเล็กๆในไทยไม่เคยคาดหวังมาก่อน แม้ว่าจะมีแต่ว่าน้อยรอบแล้วก็ลาโรงไปในเวลาอันสั้นนัก แม้กระนั้นนี่เป็นอนิเมชั่นอีกทางหนึ่งซึ่งเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ที่งาม การเล่าเรื่องที่มีความเป็นประพันธ์บางทีอาจมิได้มอบความบันเทิงในแบบที่รู้จักดี แม้กระนั้นก็เป็นความเพลินใจในอีกอรรถรสหนึ่งซึ่งน่าเปิดใจลิ้มรสเอามากๆ
เจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ The Tale of the Princess Kaguya (2013) เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันจากสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) ที่ดูแลโดย อิซาโอะ ทากาฮาตะ (Isao Takahata) ซึ่งได้ผลงานชิ้นท้ายที่สุดของเขาก่อนที่จะสูญเสียชีวิต ภาพยนตร์นี้นับว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่เด่นที่สุดของสตูดิโอจิบลิ ด้วยการผลิตสรรค์ภาพศิลปที่ไม่ซ้ำใครและก็เรื่องราวที่ลึกซึ้งซาบซึ้งใจ อิงจากตำนานท้องถิ่นประเทศญี่ปุ่นเรื่อง “ตำนานเจ้าฟ้าหญิงคางุยะ” หรือ “ตำนานคนตัดไผ่” ซึ่งยอดเยี่ยมในตำนานที่ดั้งเดิมที่สุดของประเทศญี่ปุ่น
ลักษณะเด่นของภาพยนตร์
แอนิเมชันในประเด็นนี้ใช้ลายเส้นที่เสมือนภาพวาดด้วยมือซึ่งมีความง่ายๆแม้กระนั้นทรงอำนาจ สไตล์ที่ใช้มีความน้อยลง แล้วก็มองเหมือนภาพวาดน้ำหมึกประเทศญี่ปุ่นแบบเริ่มแรก ซึ่งไม่เหมือนกับแอนิเมชันทั่วๆไป แต่ทำให้ภาพยนตร์ประเด็นนี้มองมีความสวยและก็ความเป็นเอกลักษณ์
เรื่องราวที่ลึกซึ้งและก็สื่อความหมาย
รายละเอียดของเรื่องเน้นย้ำไปที่หลักสำคัญปรัชญารวมทั้งวัฒนธรรม ได้แก่ ความสบายที่จริงจริงในชีวิต ความเป็นไม่แน่นอนของชีวิต การต่อสู้เพื่ออิสระ และก็การจำต้องสารภาพชะตาชีวิต ภาพยนตร์สื่อถึงความสบายที่เรียบง่ายในบ้านนอกที่ถูกแทนที่ด้วยชีวิตที่สลับซับซ้อนแล้วก็บีบคั้นในเมืองใหญ่ การสำรวจชีวิตของเจ้าฟ้าหญิงคางุยะเป็นเสมือนการสะท้อนของการใช้ชีวิตของคนเรา
ดนตรีประกอบโดยโจ ฮิซาอิชิ (Joe Hisaishi)
ดนตรีประกอบของภาพยนตร์หัวข้อนี้ช่วยสร้างเสริมบรรยากาศของเรื่องราวได้อย่างยอดเยี่ยม เสียงเพลงที่ประณีตบรรจงและละเอียดลออแล้วก็งามสร้างอารมณ์ที่ทรงประสิทธิภาพและก็ซาบซึ้งใจ เสียงดนตรีที่ประสมประสานกับเรื่องราวทำให้ผู้ชมเชื่อมโยงกับอารมณ์ของผู้แสดงได้อย่างถ่องแท้
การสำรวจความเกี่ยวข้องมนุษย์
ภาพยนตร์นี้มีการใคร่ครวญเรื่องความเกี่ยวพันระหว่างมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นความรักของบิดามารดาที่มีต่อบุตร ความมุ่งมาดที่สังคมมอบให้ และก็ความรักที่เป็นอิสระจากกฎเกณฑ์ของสังคม ชีวิตของคางุยะเป็นการตรวจสอบถึงความบากบั่นสำหรับในการใส่ความหมายในชีวิตของคุณ รวมทั้งการเข้าใจในเรื่องความสำราญที่จริงจริงที่ไม่อาจจะถูกควบคุมโดยบรรทัดฐานด้านสังคม pgslot1168
เจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ The Tale of the Princess Kaguya (2013) เป็นภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยความสวยอีกทั้งในด้านภาพและก็รายละเอียด มันเป็นงานศิลปะที่อยากได้การตีความหมายแล้วก็ตรวจอย่างถ่องแท้ ผู้ชมจะได้รับประสบการณ์ทางอารมณ์รวมทั้งแนวความคิดที่ทำให้แลเห็นถึงความงามรวมทั้งความเศร้าใจในชีวิต ความธรรมดารวมทั้งลึกซึ้งของภาพยนตร์หัวข้อนี้ทำให้เป็นเลิศในผลงานที่เด่นที่สุดของสตูดิโอจิบลิ ซึ่งจะยังคงอยู่ในใจของผู้ชมไปอีกนาน
ภาพ เรื่องภาพ นี่ถูกใจเมื่อได้มองเห็น การนำเสนอโดยใช้ภาพวาดระบายสีน้ำนี่หาดูมิได้ในเมะปัจจุบันนี้อีกแล้ว ในสมัยที่ใช้คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสำหรับการสร้างอนิเมะ (.ให้รำลึกถึงเกมส์ okami ) และไม่รู้สึกขัดใจเลย การตัดต่อ การนำเสนอทำเป็นเนียนและก็ไหลลื่นจริงๆ
เพลงรวมทั้งเสียงบรรยาย
เพลงก็ยอดเยี่ยมตามสไตล์ของ Studio Ghibli ฟังแล้วซาบซึ้งใจทุกฉาก คนนั่งข้างผมนี่ฟังเพลงร้องบางครั้งบางคราวเอากระดาษทิชชูมาเช็ดน้ำตา ส่วนเรื่อง เสียงบรรยาย หัวข้อนี้ได้มองเสียงบรรยายแบบออริจินอลเลยขอรับ ไม่มีบรรยายไทย นี้ก็ยอดเยี่ยมอีกหัวข้อนึง
เพลง ตอนสุดท้าย นี่ตอนต้นนึกว่าจะโดนไล่จากโรงภาพยนต์เสมือนเรื่องอื่นๆแต่ว่าประเด็นนี้ทางโรงภาพยนต์ได้ปลดปล่อยให้พวกเราได้ฟังเพลงInochi no Kioku โดย Kazumi Nikaidou จนถึงจบด้วยเหตุว่ามีฉายเพียงแค่รอบเดียวเลยทำอย่างนี้ได้ แอ่งน้ำตาผิดใจกันถ้วนหน้า เป็นอนิเมะที่จำเป็นจะไปดูจริงๆคุ้มคุ้มราคาแน่ๆครับผมหัวข้อนี้ จนกระทั่งไม่รู้เรื่องจะตัดแต้มที่ไหน